คุณรู้ไหมว่า...ใครเป็นใคร..? บนโลกใบนี้

คุณรู้ไหมว่า...ใครเป็นใคร..? บนโลกใบนี้

Charlemagne : พระเจ้าชาร์เลอมาญ (ประมาณ ค.ศ.742-814)


Charlemagne : พระเจ้าชาร์เลอมาญ  เป็นที่รู้จักกันในนาม  จักรพรรดิแห่งอาณาจักรวรรดิโรมันอันศักสิทธิ์ (Holy Roman Empire)  ในยุโรปสมัยกลาง  พระเจ้าชาร์เลอมาญเริ่มจากการขึ้นเป็นกษัตริย์ของพวกแฟรงค์ (Franks) ในฝรั่งเศส  เมื่อปี ค.ศ.768  จากนั้นพระองค์ทรงขยายดินแดนจากอิตาลีไปเยอรมนี  และจากฝรั่งเศสถึงฮังการี  และทำให้ประชาชนในรัฐเหล่านั้นเปลี่ยนมาเข้ารีตและนับถือในศาสนาคริสต์  พระองค์ได้รับการแต่งตั้งจากพระสันตะปาาลีโอที่ 3 ให้เป็นประมุขแห่งอาณาจักรโรมัน  ซึ่งชาร์เลอมาญได้เชิญนักปราชญ์  กวี  มาช่วยฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม  การศึกษา  กฎหมายและศาสนา  และทำให้ฝรั่งเศสเริ่มก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการศึกษาและอารยธรรมของยุโรปในเวลาต่อมา  ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการในยุโรป

ภาพ  พีธีสวมมงกุฎของชาร์เลอมาญ  
โดยพระสันตะปาปาลีโอที่ 2 ที่วิหารเซนต์ปีเตอร์ในโรม

เมื่อชาร์เลอมาญสิ้นพระชนม์  ราชสำนักก็ไม่สามารถรักษาอำนาจของอาณาจักรแฟรงค์ไว้ได้อีก  ทำให้เกิดปัญหาในความมีเอกภาพของจักรวรรดิโรมันในสมัยกลาง ซึ่งต่อมา...อาณาจักรของพระองค์ได้แบ่งแยกให้แก่พระโอรส 3 พระองค์ และบางส่วนก้อยู่ในดินแดนเยอรมนี  ในปัจจุบันนี้

Tu Fu หรือ Du Fu : ตู้ฝู้ (ค.ศ.712-770)


Tu Fu : ตู้ฝู้  กวีผู้ยิ่งใหญ่ชาวจีน  ในสมัยราชวงศ์ถัง  ผู้มีชีวิตร่วมสมัยเดียวกับ " หลี่ไป๋" เขามีความทะเยอทะยานที่จะรับใช้แผ่นดินจีน  แต่ก็สอบเข้ารับราชการประจำไม่ผ่านอยู่หลายคราครั้ง แต่กระนั้น...ในปี ค.ศ.775  ด้วยวัย 43 ปี  เขาก็ได้มีโอกาสเป็นขุนนางในช่วงเวลาสั้นๆ  ในช่วงที่ราชวงศ์ถังเกิดความระส่ำระสาย...ด้วยภาวะสงครามที่ยืดเยื้อและยาวนาน  จนกระทั้ง  ค.ศ.759 ตู้ฝู้ก็รู้สึกผิดหวังกับแวดวงราชการบ้านเมืองเป็นอย่างมาก  จึงอพยพครอบครัวลี้ภัยไปอยู่เมืองเฉิงตู  และมีชีวิตอยู่อย่างเงียบสงบนาน 4 ปี  และได้เขียนงานกวีออกนิพนธ์ออกมาอีกมากมาย

ภาพ  สำเนาบทกีวบางตอนของตู้ฝู้

ตู้ฝู่เสียชีวิตระหว่างทางเร่ร่อนลี้ภัย ในปีค.ศ.770 และได้ทิ้งผลงานกวี...ไว้ให้แก่ชนรุ่นหลังมากกว่า 1400 บท ซึ่งบทกวีส่วนใหญ่...ตู้ฝู้ได้สะท้อนถึงภาพรวมของสังคมในช่วงเวลากว่า 20 ปีที่ราชวงศ์ถังเกิดภัยสงคราม  และความฟอนแฟะในวงการขุนนาง  ซึ่งทำให้ประเทศจีนเคยที่เข้มแข็ง...กลับกลายเป็นประเทศอ่อนแอได้ในที่สุด  และบทกวีของตู้ฝู้ยังมีคุณค่าเชิงประวัติศาสตร์อีกมาก...ในหลายๆด้าน  จนเขาได้รับการย่อย่องว่าเป็น " นักกวีประวัติศาสตร์ " บทกลอนของตู้ฝู่ยังมีอีกรูปแบบหลากหลาย ทั้งบทกวีชื่นชมธรรมชาติ  พรรณาถึงความยากลำบากในชีวิต  และในปั้นปลายชีวิต  ตู้ฝู้ได้เขียนบทกวีเชิงมนุษยธรรมที่แสดงถึงเมตตาจิตต่อเพื่อนมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งด้วย  

ผลงานชิ้นเอก  ตัวอย่างเช่น เปย์เจิง ชิวซิ่ง และซันสื่อซันเปี๋ย เป็นต้น

重过何氏五首 : 杜甫
"ผ่านมาซ้ำอีกคราที่บ้านสกุลเหอ" กลอนซือห้าบทโดยตู้ฝู่ 


ถามไถ่ถึงไผ่ที่สะพานบูรพา...............................ท่านขุนพลมีสาราตอบ
ควบอาชากลับมาผ้าผ่อนเปรอะ..........................มาพำนักกระท่อมข้าสักเพลา
มาลีคลี่บาน นกขมิ้นโฉบผีเสื้อ...........................ท่ามเสียงลำธารไหลนากไล่จับปลา
คราเมื่อแวะมาสระผมที่ตรงนี้..............................แท้จริงแล้วเป็นที่คนเถื่อนอาศัย

พิรุณคีรียังคงอยู่ยืนยง......................................หาดทรายแคบคงไม่ขยับย้าย
สุนัขรับแขกที่แวะมาค้างคืนด้วย.........................นกกาป้องลูกน้อยที่ร่วงจากรวงรัง
เมฆบางลอยเลื่อนโอบอารามชุ่ยเวย์....................ฟ้ากระจ่างเหนือเนินหวงจื่อ
ตลอดมายังสวยสดงดงาม.................................ยกเท้าก้าวข้ามรั้วบูรพา

อาทิตย์อัสดงเหนือลานราบเรียบ.........................ลมวสันต์พัดโชยยามจิบน้ำชา
แต้มพู่กันป้ายลงบนแผ่นศิลา..............................นั่งเขียนโคลงกลอนใต้ใบถง
นกกระเต็นเพรียกเกาะชายคา.............................แมลงปอจับสายคันเบ็ด
เพลานี้ต่างคุ้นเคยกันดีแล้ว...............................ไปมาหาสู่กันได้ไม่ต้องนัดหมาย

เช้าๆออกจะคร้านพบ........................................หมกมุ่นตอบสุนทรถ้อยเสียยาวยืด
ฝนสาดเสื้อเกราะโลหะไกว................................หอกขึ้นคราบเขียววางอยู่บนตะไคร่มอส
มือเขย่าโยกต้นหลิวใหญ่...................................พึงพอใจกับไร่ข้าวฟ่าง
เห็นท่านแล้วให้อิ่มใจในอก................................ดุจตะวันฉายต้องพระองค์

ครานี้ตอบมาว่าพำนักบ่อย..................................ระลึกถึงกันปีนี้แสนพิเศษ
เสียเวลาให้ใบหน้าหม่นหมอง..............................ธารวนางดงามกลับเฝ้าแต่ระทมทุกข์
ไฉนหนอจะหล่อเลี้ยงชีพด้วยเบี้ยหวัดจิ๊บจ้อย........กลับสู่ป่าเขาซื้อที่นาแล้งกันดาร
จะท่องเที่ยวต่อไปก็ใจประหวั่นพรั่น......................สูญเสียอยู่ร่ำไปชวนให้ใคร่เมามาย

Li Bai หรือ Li Bo : หลี่ไป๋ (ค.ศ.701-762)


Li Bai หรือ Li Bo : หลี่ไป๋  นักกวีชาวจีนผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ถัง  ซึ่งบทกวีของหลี่ไป๋ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากจินตภาพในลัทธิเต๋า  ที่ชื่นชมธรรมชาติ  และมากด้วยจินตนาการ  หลี่ไป๋ใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตท่องเที่ยวไปทั่วแผ่นดินจีน  และเขียนบทกวีมากมาย  เขายังเป็นคนที่ชอบการร่ำสุราอีกด้วย

งานกวีนิพนธ์ของหลี่ไป๋ยังคงเหลือตกทอดมาจนถึงปัจจุบันมากกว่า 1,100 ชิ้น มีการแปลบทกวีของเขาไปเป็นภาษาตะวันตกครั้งแรกในปี พ.ศ.2405 โดย มาร์ควิส ดีเฮอร์วีย์ เดอ แซงต์เดนีส์ ในหนังสือ Poésies de l'Époque des Thang และต่อมาในปี พ.ศ.2444 งานกวีนิพนธ์ของหลี่ไป๋ก็เป็นที่รู้จักกว้างขวางในแวดวงวรรณกรรมตะวันตก เมื่อสำนักพิมพ์ Herbert Allen Giles พิมพ์เผยแพร่ผลงานเรื่อง "ประวัติศาสตร์วรรณคดีจีน" (History of Chinese Literature)


 ตัวอย่างบทกวี

花間一壺酒。 ไหสุราประหนึ่งดัง ดอกไม้
獨酌無相親。 ไร้เพื่อนดื่มเคียงกาย ผู้เดียว
舉杯邀明月。 ยกจอกขึ้นเชื้อเชิญจันทร์ กระจ่างใส
對影成三人。 ทอแสงรวมเงาข้า เป็นสาม
月既不解飲。 จันทร์เจ้าลอยเลื่อน ไม่อาจ ดื่มได้
影徒隨我身。 เงาเจ้าคล้อยเคลื่อนตาม ติดไหว
暫伴月將影。 มีทั้งจันทร์และเงาอยู่เป็นเพื่อน
行樂須及春。 เริงรื่น ก่อนฤดูไม้พรรณพฤกษ ผลิใบ
我歌月徘徊。 เมื่อข้าร้องเพลง จันทร์ทอแสง
我舞影零亂。 เมื่อข้าเริงระบำ เงาสั่นไหว
醒時同交歡。 เมื่อยังตื่น ร่วมสรวลเสเฮฮา
醉後各分散。 เมื่อเมาแล้ว ต่างต้องแยกจากกัน
永結無情遊。 มิตรภาพของเรายังคงอยู่ตลอดไป
相期邈雲漢。 และพบกันใหม่ในธารดารา1

ติดตามผ่าน FACEBOOK

Video Of Week : เส้นทางนักบุกเบิก สตีฟ จ๊อบส์

Live Currency Cross Rates


The Forex Quotes are powered by Investing.com.

ไขปริศนาคดีฆาตกรต่อเนื่องโดย นักฆ่าโซดิแอค

โพสต์แนะนำ

Anton Van Leeuwenhoeh : ลีเวนฮุ๊ค (ค.ศ.1632-1723)

Anton Van Leeuwenhoeh : ลีเวนฮุ๊ค  นักชีววิทยาชาวดัชท์  ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น " บิดาแห่งจุลชีววิทยาการ " ( the Father of M...

บทความที่ได้รับความนิยม

Kategori

สนับสนุนเว็บไซด์

หนังคาวบอยดี.. ดูฟรี ออนไลน์

Kategori