ธอมัส ฮอบส์ เกิดที่เมืองมาลมส์เบอรี่ (Malmesbury) ในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ.1588 ในช่วงเวลาที่อังกฤษกำลังเผชิญกับสงครามจากกองเรืออาร์มาดา (Armada) ของสเปน ซึ่งมารดาของฮอบส์เกิดความตื่นตระหนกอย่างมาก..จึงทำให้คลอดฮอบส์ก่อนกำหนด (ฮอบส์จึงเชื่อว่า..เขานั้นเกิดมาพร้อมกับความตื่นตระหนก : Terror ซึ่งกลายเป็นลักษณะนิสัยประจำตัวของเขาเรื่อยมา) บิดาของฮอบส์เป็นคนขี้เมา..ชอบก่อเรื่องทะเลาะวิวาท..และทำร้ายผู้อื่นจนบาดเจ็บสาหัส จึงหนีหายสาบสูญไป ทิ้งให้ฮอบส์กับพี่น้องอีกสองคนและแม่..ให้อยู่ในความอุปการะของลุง ฟรานซิสฮอบส์ (Francis Hobbes) ผู้มีอาชีพเป็นช่างทำถุงมือ จนเมื่ออายุ 15 ปี ฮอบส์ได้เข้าศึกษาที่แมกดาเลน ฮอลส์ (Magdalen Hall) อ๊อฟซ์ฟอร์ดจนสำเร็จปริญญาตรี และเริ่มอาชีพเป็นครู..โดยสอนหนังสือให้กับบุตรของวิลเลียม คาเวนดิช (William Cavendish) เอริล์ที่สองแห่งเดอเวนไชร์ (Devonshire) และสอนบุตรของเซอร์ เจอร์เวส คลินตัน (Sir Gervase Clinton) ด้วย และในช่วงเวลานี้เอง..ที่ฮอบส์ได้มีโอกาสเรียนรู้วิชาเรขาคณิตของยูคลิด (Euclid's Element) ซึ่งเขาชอบมาก..และได้นำเอาวิธีการของเรขาคณิตมาพัฒนาทฤษฏีทางการเมืองของเขาในเวลาต่อมา
ภาพ Frontispiece from De Cive (1642)
งานเขียนสำคัญ : แปลผลงานของธูซิดิดิส (Thucydides : 1628) และหนังสือทางการเมืองเล่มแรกคือ องค์ประกอบของกฎหมาย (The Element of Law : 1640) ที่ฮอบส์ได้แสดงทัศนะสนับสนุนนโยบายของพระเจ้าชาร์ลที่ 1 ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มของโอลิเวอร์ ครอมเวลส์ (Oliver Cromwell) จนต้องลี้ภัยไปอยู่ฝรั่งเสศ 11 ปี และเดินทางต่อไปยุโรป โดยฮอบส์ได้เป็นครูสอนคณิตศาสตร์ให้แก่เจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Wales) ซึ่งต่อมาได้ครองราชบัลลังค์อังกฤษเป็นพระเจ้าชาร์ลที่ 2 ในปี ค.ศ.1660 และพระองค์ได้พระราชทานบำนาญให้แก่ฮอบส์ปีละ 100 ปอนด์จนตลอดชีพของเขา และงานเขียนที่คนรู้จักมากที่สุดคือ The Leviathan : 1668 ที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณากันมาก..ทั้งในหมู่นักบวชคาทอลิกและพวกที่นิยมกษัตริย์ จนฮอบส์ต้องลี้ภัยไปฝรั่งเศสอีกครั้ง..ที่นั้นเขาได้เขียนหนังสืออีกเล่มชื่อ เบเฮมอท (Behemoth : 1682) ที่วิเคราะห์ประวัติศาสตร์รัฐสภาอันยาวนาน (Long Parliament) อันเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดสงครามกลางเมืองที่นองเลือด..เพราะพระเจ้าแผ่นดินมิได้ใช้พระราชอำนาจอย่างเต็มที่ และงานเขียนอีกสองเล่มคือ เด คอร์โปเร (De Corpore) และ เดโฮมิเน (De Homine) โดยอธิบายวิธีการของฮอบส์..ด้วยการแบ่งแยกเป็นปรากฎการณ์ทางวัตถุ (เด คอร์โปเร) และความรู้และความรู้สึก (เด โฮมิเน) และอธิบายปรากฎการณ์ทางสังคม (เดซิเว) ซึ่งทั้งหมดนี้..อธิบายในแง่ของการเคลื่อนไหว (Motion) และในวัยชราอายุ 87 ปี ฮอบส์ยังได้แปลมหากาพย์ของ Homer คือ illiad และ Odyssey จนเสร็จสมบูรณ์ ฮอบส์ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ.1679 รวมอายุได้ 91 ปี
ภาพ Frontispiece of Leviathan
ฮอบส์ได้อธิบายถึงการเคลื่อนไหว (Motion) แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ 1) การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ (Vital Motion) เป็นการเคลื่อนไหวที่หยุดไม่ได้ตลอดชีวิต เช่น การหายใจ การกินอาหาร การขับถ่าย เป็นต้น ซึ่งการเคลื่อนไหวเหล่านี้ไม่จำเป็นจะต้องมีมโนภาพหรือจินตนาการ (Imagination) และ 2) การเคลื่อนไหวที่เกิดจากการกระตุ้นหรือโดยสมัครใจ (animal motion or voluntary motion) เช่นการพูด การเคลื่อนไหวร่างกาย การทำกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น โดยการเคลื่อนไหวลักษณะนี้..ต้องมีความคิดเกิดขึ้น..ภายในจิตใจของบุคคลก่อน ซึ่งความรู้สึกหรือความนึกคิดนั้น..อาจเป็นผลมาจากผัสสะก็ได้ เช่น การเห็น การได้ยิน การสัมผัส เป็นต้น โดยฮอบส์ได้นำหลักเกณฑ์ของ (Motion) ทั้ง 2 ข้อนี้มาอธิบายพฤติกรรมของมนุษย์ว่า..ล้วนเป็นผลที่เกิดมาจากแรงกระตุ้น (Endcavour) ทั้งสิ้น ซึ่งจะมีผลต่อตัวปัจเจกบุคคล สังคมและการเมือง โดยฮอบส์เชื่อว่าธรรมชาติของมนุษย์นั้น..มีความต้องการที่ไม่สิ้นสุด..ที่เป็นแรงผลักดันภายในอยู่ร่ำไป ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่ามนุษย์จะกระทำการอันใด..ก็ด้วยมีเป้าหมายเสมอ เช่น การแสวงหาอำนาจ การต่อสู้และการเข่นฆ่ากัน ดังที่ฮอบส์ได้กล่าวไว้ว่า " กิจกรรมของมนุษย์..เกิดจากแรงจูงใจของผลประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น " นอกจากนี้..ฮอบส์ยังเสนอความคิดแบบสัญญาประชาคมและการก่อตั้งรัฐาธิปัตย์ เพราะฮอบส์เห็นว่า " มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น คือ การก่อตั้งอำนาจร่วม (Common power) ซึ่งอาจจะปกป้องคนทั้งหลาย จากการรุกรานภายนอก (foreigners) และยังเป็นการป้องกันไม้ให้คนในสังคมทำอันตรายต่อกันด้วย " ดังนั้น รัฐจึงเกิดขึ้นก็เนื่องจากปัจเจกชนสมัครใจที่จะอยู่ภายใต้รัฐบาลที่มีสิทธิอำนาจในการปกครอง เพื่อความสันติสุขในสังคม ถ้าหากเราไม่มีรัฐ..ไม่มีกฎหมายที่เป็นธรรม ปัจเจกชนจะอยู่อย่างวหวาดกลัว ยากจนและขาดแคลน เป็นต้น
หมายเหตุ : บริบทของยุคสมัย..มีอิทธิพลต่อแนวความคิดและการสร้างทฤษฏีทางการเมืองของฮอบส์ด้วย เพราะฮอบส์มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่อังกฤษมีความแตกแยก..ทั้งทางสังคมและการเมืองสูง อันเป็นผลมาจากการปฏิรูปทางศาสนาและความไม่รงรอยกันระหว่างพระเจ้าชาร์ลที่ 1 และกับฝ่ายรัฐสภา ซึ่งมีโอลิเวอร์ ครอมเวลส์ เป็นผู้นำ..จนกระทั้งรุกรามไปสู่สงครามกลางมือง..ที่ฝ่ายรัฐสภาได้รับชัยชนะ และพระเจ้าชาร์ลที่ 1 ถูกประหารชีวิต ทำให้อังกฤษถูกปกครองโดยระบอบผู้ปกครองจักภพครอมเวลล์ (Cromwellian Protectorate) ในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะเมื่อริชาร์ด ครอมเวลล์ ผู้เป็นบุตรไม่สามารถรักษาอำนาจไว้ได้และถูกโค้นล้มไป อังกฤษจึงกลับสู่ระบอบกษัตริย์อีกครั้ง โดยสถาปนาพระเจ้าชาร์ดที่ 2 เป็นกษัตริย์ในปี ค.ศ.1660 แต่กระนั้น..อังกฤษก็ยังหาได้หมดจากปัญหาความแตกแยกทั้งทางศาสนาและการเมือง
EmoticonEmoticon