แบลส์ ปาสคาล เกิดวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ.1623 ใน Clermont-Ferrand แคว้นโอแวร์ญ (Auvergne region) ประเทศฝรั่งเศส และด้วยวัยเพียง 3 ขวบ เขาก็ต้องสูญเสียมารดาไปอย่างกระทันหัน และย้ายไปอยู่กรุงปารีสกับบิดา Étienne Pascal ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้พิพากษาท้องถิ่น ในปี 1631 แต่กระนั้น..ปาสคาลก็เป็นเด็กอัจฉริยะ..มีความเฉลียวฉลาดเหนือกว่าเด็กทั่วๆไป ซึ่งบิดาได้ตัดสินใจที่จะให้ความรู้แก่ปาสคาลด้วยการเรียนการสอนแบบ homeschool ที่บ้านด้วยตัวเอง ซึ่งปาสคาลก็ได้แสดงให้เห็นความมีอัจฉริยะภาพในทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ด้วยวัยเพียง 12 ขวบ เขาก็สามารถอ่านทฤษฏีเรขาคณฺิตของยูคลิต (Euclid)ได้ทั้งหมด พออายุ 14 ปี ปาสคาลก็ได้เข้าร่วมประชุมกับกลุ่มนักคณิตศาสตร์แห่งฝรั่งเศส (ที่ต่อมา..ได้รวมกันก่อตั้งสถาบัน French Academic ขึ้นในปี 1666) ซึ่งในขณะนั้น..ในสายตาของผู้ใหญ่..ปาสคาลมักถูกมองว่าเป็นเด็กแก่แดด (so precocious) อยู่เสมอ และเมื่ออายุ 16 ปี เขาก็สามารถคิดค้นวิธีพิสูจน์เกี่ยวกับ " Mystic Hexagram " (รูปเรขาคณิตของดาว 6 แฉก) ที่เกิดจากสามเหลี่ยมด้านเท่า 2 รูปวางซ้อนกัน และการพิสูจน์ภาคตัดทรงกรวย (ใน Essay on Conics) และด้วยวัย 19 ปี เขาสามารถประดิษฐ์เครื่องคิดเลขแบบใช้ฟันเฟืองได้สำเร็จ (Pascal's calculator) ในปี 1645 และได้สามารถพัฒนาทฤษฏีบทที่สำคัญในวิชาเรขาคณิตโปรเจกทีฟ (Projective geometry) ที่นำไปสู่การค้นพบ " สามเหลี่ยมปาสคาล " (Pascal's Triangle) ในปี ค.ศ.1665 และทำให้ปาสคาลมีชื่อเสียงโด่งดังมาก..ในวงการนักคณิตศาสตร์ของฝรั่งเศส แต่เป็นที่น่าเสียดาย..หลังจากที่เขาประสบอุบัติเหตุที่ Neuilly เขาได้เปลี่ยนความสนใจไปในทางศาสนาและปรัชญามากขึ้น ไม่เช่นนั้นเขาคงเป็นนักคณิตศาสตร์ที่มีอนาคตรุงโรจน์ที่สุดคนหนึ่งของโลก
ภาพ เครื่องคิดเลขแบบฟันเฟืองของแบลส์ ปาสคาล : 1645
นอกจากความสามารถในทางคณิตศาสตร์แล้ว แบลส์ ปาสคาลยังชื่อเสียงในฐานะนักพนันอีกด้วย และเมื่อชายชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ เชอวาลีเยร์ เดอ แมร์ ได้มาปรึกษาปัญหากับปาสคาลในเรื่องการทอดลูกเต๋า ซึ่งเขาก็ได้อธิบายว่า " ในการทอดลูกเต๋า 2 ลูกนั้น ลูกเต๋าจะหงายได้ถึง 36 วิธี " และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของทฤษฏีความน่าจะเป็น (Theory of Probability) ของปาสคาล และเขายังเป็นนักฟิสิกส์อีกด้วย โดยเฉพาะการศึกษาในเรื่องน้ำหนักและความดันของอากาศ ซึ่งเขาได้ประดิษฐ์บารอมิเตอร์แบบปรอทขึ้น และนำบารอมิเตอร์นั้น..ขึ้นไปทดสอบบนยอดเขาเพเดอโดม และค้นพบว่า..ยิ่งสูงขึ้นไปเท่าไหร่..ระดับของปรอทในหลอดแก้วก็จะยิงลดลง ซึ่งเป็นการพิสูจน์ได้ว่า " อากาศมีน้ำหนัก " และทฤษฏีทีทำให้ปาสคาลมีชื่อเสียง..อีกครั้ง เมื่อเขาเสนอว่า " ของเหลวที่อยู่ในภาชนะที่มีช่องทะลุถึงกันได้ ความดันในของเหลวที่ระดับเดียวกันจะต้องมีค่าเท่ากัน..ในขณะไม่มีการไหล " กฎนี้ที่ต่อมาเรียกกันว่า " กฎของปาสคาล " ซึ่งเป็นหลักการที่ใช้ในแม่แรงไฮดรอริกที่เราเห็นอยู่ทั่วไปตามอู่ซ่อมรถยนต์ในปัจจุปัน
ภาพ สามเหลี่ยมปาสคาล (Pascal's Triangle) ในปี ค.ศ.1665
งานเขียนสำคัญ : แบลส์ ปาสคาลได้เขียนหนังสือไว้หลายเล่ม เช่น (Treatise on the arithmetic triangle : 1653) หนังสือเกี่ยวกับสูตรสามเหลี่ยมเชิงคณิตศาสตร์ และงานเขียนที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของเขาคือ จดหมายจากต่างจังหวัด (Letters provincials : 1656-57) ที่มีทั้งหมด 18 ฉบับ ซึ่งเขาได้ใช้นามแฝงว่า " Louis de Montalte " ที่กลายเป็นหนังสือต้องห้าม โดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้สั่งให้เผาทำลาย เพราะหนังสือนี้..โจมตีคำสอนและการเล่นโวหารของพระในคณะเยซูอิต(Jesuit) ในเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์และเจตจำนงเสรี..ที่ไม่จำเป็นที่จะต้องมีพระเจ้า..เป็นผู้กำหนดให้..ซึ่งปาสคาลโต้แย้งว่า..คำสอนเหล่านี้..เป็นเพียงการใช้เหตุผลที่ซับซ้อน..และนอกลู่นอกทาง..ในการแสดงให้เห็นถึงความหย่อนศีลธรรมและความบาปในกลุ่มพระเยซูอิตเท่านั้น (ปาสคาลเป็นนักปรัชญาศาสนาที่ปกป้องแนวทางของศาสนาในเชิงศรัทธานิยม โดยเขาได้กล่าวถึงเรื่องความเชื่อในพระเจ้าว่า..แม้อาจดูไม่มีเหตุผล แต่ก็เป็การพนันขันต่อที่ฉลาด..ไม่ใช่หรือ ?) และในปั้นปลายขีวิต เขาได้เขียนเรื่อง " ความคิด" (Pensees :1670) ซึ่งเป็นธรรมปรัชญา..ที่ยังเขียนไม่จบ..ซึ่งปาสคาลได้ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติทางศาสนามาจนตลอดชีวิตของเขา หลังจากทำงานอย่างหนัก ปาสคาลก็ป่วยเป็นโรคไขสันหลังอักเสบและมีฝีในกระเพาะอาหาร ที่ทำให้เขาเสียชีวติลงในวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1662 ด้วยอายุเพียง 39 ปีเท่านั้น
วาทะกรรม : " เรารู้ความเป็นจริง, ไม่ใช่ด้วยเหตุผลเท่านั้น แต่ด้วยหัวใจด้วย "
EmoticonEmoticon