ในสงครามครูเสดครั้งที่ 5 พระสันตะปาปา อินโนเซนต์ ที่ 3 ต้องการยึดคืนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ (เยรูซาเล็ม) ให้กลับมาเป็นของชาวคริสต์อีกครั้ง เพื่อต้องการจะจัดระเบียบอำนาจในยุโรปเสียใหม่ให้อยูภายใต้ศาสนจักรโดยสมบูรณ์ ซึ่งต่อมา...ได้รับการสานต่อพันธกิจโดยพระสันตะปาปา โฮโนริอุส ที่ 3 (Honorius III) ดังนั้น ในปี ค.ศ.1218 ชาวคริสต์จึงส่งกองทัพไปยึดครองแผ่นดินอียิปต์จาก สุลต่าน อัล-คามิล (Al-Kamil) ซึ่งปกครองอียิปต์ในเวลานั้น โดยกองทัพของชาวคริสต์ต้องเสียหายอย่างหนักและมีคนล้มตายลงเป็นจำนวนมาก จนนำไปสู่การทำสัญญาสงบศึกเป็นระยะเวลา 8 ปี โดยมี ฟรานซิส แห่งอัสซีซีเป็นทูตสันถวไมตรี
ภาพ พระสันตะปาปาทรงอนุมัติกฎเกฑณ์ของคระฟรานซิสกัน วาดโดย Giotto
กล่าวกันว่า....ในครั้งนั้น สุลต่าน อัล-คามิล ได้ประกาศไปทั่วว่า...ถ้าหากผู้ใดสามารถนำเอาศีรษะของชาวคริสต์ ตั้งแต่อาเซียไมเนอร์ไปจนจรดอียปต์มาวางไว้ต่อหน้าได้ 1 หัว ผู้นั้นจะได้ค่าหัวเท่ากับทองคำหนึ่งก้อน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ชาวคริสต์ถูกเข่มฆ่าและต้องล้มตายลงเป็นผักปลา ดังนั้น เซนต์ฟรานซิลแห่งอัสซีซี จึงได้ยอมเสี่ยงอันตรายเข้าไปขอเจรจากับ สุลต่านอัล-คามิล แต่กว่า...ท่านจะได้พบกับ อัล-คามิล ท่านและผู้ติดตามก็ต้องถูกโบยตีถูกทรมานเสียจนเกือบตาย แต่...เซนต์ฟรานซิลแห่งอัสซีซีก็ไม่ได้ละทิ้งความตั้งใจ ซึ่งผลที่สุด สุลต่าน อัล-คามิล ก็เห็นแก่ความพยายามและน้ำอดน้ำทนของท่าน จึงยินยอมทำสัญญาสงบศึกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง เซนต์ฟรานซิลแห่งอัสซีซี จึงได้กลายเป็นศูนย์รวมกำลังใจของชาวคริสต์ในสงครามครูเสดครั้งนี้...เป็นอย่างมาก และได้รับการยกย่องให้เป็นนักบุญ ในปีค.ศ. 1228
EmoticonEmoticon