สุลต่านสุไลมานทรงออกประมวลกฎหมายที่รู้จักกันในชื่อ “Kanun‐i Osmani” หรือ “กฎหมายออสมัน” ที่ครอบคลุมทั้งกฎหมา่ยอาญา กฎหมายที่ดินและกฎหมายภาษีอากร โดยการยกเลิกบทบัญญัติเก่าที่ซ้ำซ้อนและขัดแย้งกัน...จากคำพิพากษาของสุลต่าน 9 พระองค์ก่อนหน้านั้น และออกเป็นประมวญกฎหมายฉบับเดียว โดยไม่ขัดแย้งกับกฏหมายสูงสุดคือ " ชะรีอะฮ์ " (Shari'ah) และหลักการพื้นฐานกฎบัตรของศาสนาอิสลาม นอกจากนี้ พระองค์ยังลดการใช้โทษประหารชีวิตหรือการตัดชิ้นส่วนร่างกายของผู้กระทำความผิด ในด้านภาษีอากร..ได้ปฏิรูปและระบบการจัดเก็บภาษีสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งภาษีสัตว์ เหมืองแร่ ภาษีการค้าขาย ภาษีขาเข้า-ขาออก รวมทั้งออกกฎหมายควบคุมนายภาษีที่ทุจริต ซึ่งมีโทษทั้งการยึดทรัพย์และที่ดินกลับคืนเป็นของหลวง ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้สืบต่อกันมาในประเทศอิสลามอีกหลายร้อยปี
จุลจิตรกรรมแสดงภาพสุลต่านสุลัยมานมหาราชเสด็จนำทัพใน Nakhchivan ปี ค.ศ.1554
ในด้านสังคม สุลต่านสุไลมานทรงสร้างมัสยิด ห้องสมุด โรงทาน สะพานท่อส่งน้ำและสาธารณูปโภคต่างๆ สถานพยาบาลสำหรับสาธารณชน และทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ศิลปะ วรรณคดี โดยพระองค์เองยังเป็นกวีฝีปากเอกและช่างทองฝีมือดี...อีกด้วย
ในด้านการทหารกษัตริย์สุไลมานทรงทำสงครามกับพวกคริสเตียนขยายดินแดนไปจนถึงฮังการี และทำสงครามกับกษัตริย์เปอร์เซีย(ทางตะวันออกกลาง) และยึดครองดินแดนอีรักและลิเบีย และขยายดินแดนไปในตอนเหนือของแอฟริกาและแอลจีเรีย กองทัพเรือของพระองค์มีอำนาจเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คลอบคลุ่มไปถึงทะเลแดง อ่าวเปอร์เซียและมหาสมุทรอินเดีย และมีอำนาจในยุโรป ถือเป็นยุคที่รุ่งเรืองจนถึงขีดสุดของจักรวรรดิออตโตมัน
หมายเหตุ : จักรวรรดิออตโตมัน เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1453-1923 หลังจากการล้มสลายของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ซึ่งมีคอนแสตนติโนเปิล (อิสตันบลู) เป็นเมืองหลวง โดยจักรวรรดิออตโตมันมีอาณาเขตครอบคลุมถึง 3 ทวีป คือ เอเซีย แอฟริกาและยุโรป
EmoticonEmoticon