Tu Fu : ตู้ฝู้ กวีผู้ยิ่งใหญ่ชาวจีน ในสมัยราชวงศ์ถัง ผู้มีชีวิตร่วมสมัยเดียวกับ " หลี่ไป๋" เขามีความทะเยอทะยานที่จะรับใช้แผ่นดินจีน แต่ก็สอบเข้ารับราชการประจำไม่ผ่านอยู่หลายคราครั้ง แต่กระนั้น...ในปี ค.ศ.775 ด้วยวัย 43 ปี เขาก็ได้มีโอกาสเป็นขุนนางในช่วงเวลาสั้นๆ ในช่วงที่ราชวงศ์ถังเกิดความระส่ำระสาย...ด้วยภาวะสงครามที่ยืดเยื้อและยาวนาน จนกระทั้ง ค.ศ.759 ตู้ฝู้ก็รู้สึกผิดหวังกับแวดวงราชการบ้านเมืองเป็นอย่างมาก จึงอพยพครอบครัวลี้ภัยไปอยู่เมืองเฉิงตู และมีชีวิตอยู่อย่างเงียบสงบนาน 4 ปี และได้เขียนงานกวีออกนิพนธ์ออกมาอีกมากมาย
ภาพ สำเนาบทกีวบางตอนของตู้ฝู้
ผลงานชิ้นเอก ตัวอย่างเช่น เปย์เจิง ชิวซิ่ง และซันสื่อซันเปี๋ย เป็นต้น
重过何氏五首 : 杜甫
"ผ่านมาซ้ำอีกคราที่บ้านสกุลเหอ" กลอนซือห้าบทโดยตู้ฝู่
ถามไถ่ถึงไผ่ที่สะพานบูรพา...............................ท่านขุนพลมีสาราตอบ
ควบอาชากลับมาผ้าผ่อนเปรอะ..........................มาพำนักกระท่อมข้าสักเพลา
มาลีคลี่บาน นกขมิ้นโฉบผีเสื้อ...........................ท่ามเสียงลำธารไหลนากไล่จับปลา
คราเมื่อแวะมาสระผมที่ตรงนี้..............................แท้จริงแล้วเป็นที่คนเถื่อนอาศัย
พิรุณคีรียังคงอยู่ยืนยง......................................หาดทรายแคบคงไม่ขยับย้าย
สุนัขรับแขกที่แวะมาค้างคืนด้วย.........................นกกาป้องลูกน้อยที่ร่วงจากรวงรัง
เมฆบางลอยเลื่อนโอบอารามชุ่ยเวย์....................ฟ้ากระจ่างเหนือเนินหวงจื่อ
ตลอดมายังสวยสดงดงาม.................................ยกเท้าก้าวข้ามรั้วบูรพา
อาทิตย์อัสดงเหนือลานราบเรียบ.........................ลมวสันต์พัดโชยยามจิบน้ำชา
แต้มพู่กันป้ายลงบนแผ่นศิลา..............................นั่งเขียนโคลงกลอนใต้ใบถง
นกกระเต็นเพรียกเกาะชายคา.............................แมลงปอจับสายคันเบ็ด
เพลานี้ต่างคุ้นเคยกันดีแล้ว...............................ไปมาหาสู่กันได้ไม่ต้องนัดหมาย
เช้าๆออกจะคร้านพบ........................................หมกมุ่นตอบสุนทรถ้อยเสียยาวยืด
ฝนสาดเสื้อเกราะโลหะไกว................................หอกขึ้นคราบเขียววางอยู่บนตะไคร่มอส
มือเขย่าโยกต้นหลิวใหญ่...................................พึงพอใจกับไร่ข้าวฟ่าง
เห็นท่านแล้วให้อิ่มใจในอก................................ดุจตะวันฉายต้องพระองค์
ครานี้ตอบมาว่าพำนักบ่อย..................................ระลึกถึงกันปีนี้แสนพิเศษ
เสียเวลาให้ใบหน้าหม่นหมอง..............................ธารวนางดงามกลับเฝ้าแต่ระทมทุกข์
ไฉนหนอจะหล่อเลี้ยงชีพด้วยเบี้ยหวัดจิ๊บจ้อย........กลับสู่ป่าเขาซื้อที่นาแล้งกันดาร
จะท่องเที่ยวต่อไปก็ใจประหวั่นพรั่น......................สูญเสียอยู่ร่ำไปชวนให้ใคร่เมามาย
EmoticonEmoticon